เป็นสายพันธุ์ปลาทองสายพันธุ์หนึ่ง ที่นิยมเลี้ยงกันในปัจจุบัน มีรูปร่างลักษณะ ตัวอ้วนกลมคล้ายลูกกอล์ฟ มีลักษณะเด่นคือ มีเกล็ดที่นูนออกมา จึงได้ชื่อว่า "ปลาทองเกล็ดแก้ว"
ส่วนหัวมีขนาดเล็กมาก ซึ่งอาจนับได้ว่าเป็นปลาทองที่มีขนาดหัวที่เล็กที่สุด ครีบหางแผ่กางออกแลดูสวยงาม สีสันของลำตัวมีมากมายหลากหลาย ทั้ง ขาว, น้ำตาล, เหลืองและส้ม และหลากหลายสีในตัวเดียวกัน แต่ไม่พบปลาที่มีสีดำทั้งตัว และมีทั้งหัววุ้นและหัวมงกุฎ
เกล็ดแก้วเป็นปลาทองที่ชาวไทยเป็นผู้เพาะพันธุ์ขึ้นมาเป็นครั้งแรก แต่ทว่าไม่ปรากฏหลักฐานว่าผู้ใดเป็นผู้คิดค้นและทำไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ปลาทองโคเมท
เป็นปลาทองมี่มีถิ่นกำเนิดในสหรัฐฯ ลักษณะของโคเมทคือ ลำตัวผอมเพรียวยาวแลดูคล้ายปลาคาร์ป ครีบทุกครีบยาวโดยเฉพาะครีบหาง ลำตัวมักมีสีเดียวล้วน ๆ เช่น สีขาวหรือสีแดง ขนาดเมื่อโตเต็มที่สามารถยาวได้ถึง 30 เซนติเมตร จัดว่าเป็นปลาทองสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่มากสายพันธุ์หนึ่ง
Comet แปลวว่า ดาวหาง ทั้งนี้เพราะความที่มีลักษณะเพรียวยาวเหมือนดาวหางนั่นเอง โคเมทในประเทศแถบตะวันตก เช่น ที่สหรัฐอเมริกาหรืออังกฤษจะเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมาก และมีราคาสูง แต่สำหรับในประเทศไทยและแถบเอเชียนั้น สายพันธุ์นี้กลับไม่ได้รับความนิยมเท่าและมีราคาต่ำ ทั้งที่ปลาทองสายพันธุ์นี้จัดว่าเลี้ยงง่ายกว่าสายพันธุ์อื่นมาก ทั้งนี้เนื่องจากไม่มีจุดเด่นเพียงพอที่จะทำให้แลดูสวยงามเหมือนสายพันธุ์อื่น อีกทั้งยังมีลักษณะทั่วไปคล้ายปลาคาร์ปอีกด้วย จึงทำให้มีความเข้าใจผิดและสับสนกันระหว่างปลาทั้งสองชนิดนี้เสมอ ๆ โดยเฉพาะในตัวที่ยังเล็กอยู่ และบางคนอาจจะเลี้ยงปนกันในบ่อเดียวกันด้วย
ปลาทองโทะซะกิน
![]() |
ภาพวาดปลาโทะซะกิน |
โทะซะกินที่สวยนั้น ต้องมีลำตัวเป็นทรงหยดน้ำ โคนหางใหญ่ ครีบหางเบ่งบานและเป็นลอนสวยงาม โดยเฉพาะครีบหางที่อยู่กึ่งกลางลำตัวควรบานแผ่ออกและมีลักษณะโค้งได้รูป ส่วนครีบด้านข้างทั้งสองข้างควรกางแผ่ออกโดยทำมุมฉากกับลำตัว
![]() |
ภาพวาดปลาโทะซะกิน |
ผลการผสมพบว่าได้ปลาทองที่มีลักษณะผ่าเหล่าจากปลาทองอื่น ๆ คือ ที่ส่วนหางมีลักษณะแตกต่างไปจากปลาทองทั่วๆ ไป อย่างแทบไม่น่าเชื่อ
![]() |
ภาพปลาโทะซะกิน |
สำหรับในประเทศไทยเองก็ได้มีการเพาะเลี้ยงปลาทองโทะซะกินขาย แต่ก็มีเป็นจำนวนน้อยเนื่องจากเลี้ยงยาก และมีวิธีการที่ยุ่งยากกว่าปลาทองสายพันธุ์อื่น ๆ ปัญหาหลัก ๆ คือ ปลาพันธุ์นี้แพ้คลอรีน
ปลาทองรันชู
ปลาทองรันชูเป็นปลาทองที่มีลักษณะคล้ายกับปลาทองสิงห์ญี่ปุ่นมาก ลำตัวอ้วนหนา บึกบึน ไม่มีครีบหลัง

ครีบหางต้องแผ่กว้าง สมดุลกันทั้งด้านซ้ายและขวา ไม่บิดโค้งงอ มีขนาดที่เหมาะสมกับลำตัว ลักษณะของครีบหางมีสองแบบ คือ หางสามแฉก และสี่แฉก มุมยกของหางควรทำมุมไม่เกิน 45 องศา กับแผ่นหลัง ไหล่หางงุ้มมาข้างหน้าเล็กน้อย ส่วนปลายของหางไม่ควรยกสูงกว่าแนวของสันหลัง
สีของปลาทองรันชู มีสีขาว, แสด, แดง หรือแม้กระทั่งดำ เป็นสีเดียวตลอดทั้งตัว หรือจะเป็นหลายสีผสมกันก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นสีในโทนเข้มหรืออ่อน ควรมีความเงางามของเกล็ดและเรียงเป็นระเบียบสวยงาม
มีรูปทรงลำตัวที่ดี ขณะว่ายน้ำไม่เชิดหัวขึ้นหรือก้มหัวจนต่ำเกินไป มีพละกำลังในการว่ายน้ำ พริ้วสวยไม่อืดอาด มีการสะบัดสะโพกที่สวยงาม ครีบทวารหรือครีบก้น ต้องมี จะมีเดี่ยวหรือมีคู่ก็ได้ หากมีควรมีคู่กัน ส่วนครีบอื่น ๆ ไม่มีครีบหลัง มีครีบอก และครีบท้องอย่างละหนึ่งคู่ มีขนาดเท่ากัน ส่วนหัว มีช่องของดวงตาห่างและมีระยะห่างช่วงริมฝีปากจนถึงนัยน์ตาควรจะยาว กลุ้มวุ้นบนหัวทั้งสามส่วนไม่กำหนดลักษณะที่แน่นอน เพียงแต่ให้แลดูแล้วสมดุลกลมกลืนเหมาะสมกับช่วงลำตัว ส่วนของหัววุ้นบนหัว ต้องปิดทั้งแผ่นปิดเหงือก, ข้างแก้มไปจนถึงริมฝีปาก และบนส่วนหัว แต่ต้องไม่มีขนาดเหมือน ชิชิ คาชิระ
ปลาทองลักเล่ห์
ลักษณะเด่นของลักเล่ห์ คือ ดวงตาที่โปนยื่นออกมาจนดูคล้ายกับกล้องส่องทางไกล หรือกล้องดูดาว สอดคล้องกับชื่อในภาษาอังกฤษ มีต้นกำเนิดที่ประเทศจีนราวศตวรรษที่ 15-16 แต่มีการพัฒนาสายพันธุ์จนเป็นที่รู้จักในปัจจุบันที่ประเทศญี่ปุ่น
เดิมทีนั้นคำว่าลักเล่ห์ จะใช้เรียกเฉพาะปลาที่มีสีดำสนิทเท่านั้น ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า "Black moor" ส่วนปลาที่มีสีอื่น ๆ จะเรียกว่า "ตาโปนญี่ปุ่น" จะไม่ใช้คำว่าลักเล่ห์ แม้จะมีลักษณะเหมือนกันทุกอย่างก็ตาม แต่ต่างกันเพียงสีก็ตาม


ปลาทองตาลูกโป่ง


เมื่อยังเล็ก ถุงใต้ตาจะยังเล็กอยู่และจะโตขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุขัยปลา จนกระทั่งเจริญเติบโตเต็มที่เมื่ออายุได้ 2 ขวบปี ลูกโป่งมีอายุขัยเต็มที่ราว 5 ปี
ปลาทองสิงห์จีน
ปลาทองสิงห์จีนได้รับความนิยมในการเลี้ยงเป็นปลาสวยงามจำนวนมาก
ปลาทองสิงห์จีนถูกพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นในประเทศจีน ในราวศตวรรษที่ 17 หรือ 18 โดยใช้ชื่อเดียวกันกับสิงโตหินรูปปั้นที่ทำหน้าที่ทวารบาลเฝ้าประตูต่าง ๆ ตามสถาปัตยกรรมแบบจีน
ปลาทองสิงห์จีน เป็นปลาทองอีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีลำตัวป้อม สั้น แลดูหนาบึกบึน ไม่มีครีบหลัง มีส่วนของวุ้นที่หัวมากกว่ารันชูหรือสิงห์ญี่ปุ่น ในบางตัวอาจมีวุ้นปกคลุมมิดทั้งดวงตาเลยก็ได้ มีส่วนคอที่สั้น ลักษณะของปลาทองสิงห์จีนที่ได้มาตรฐานว่า สวย คือ ส่วนหลังโค้ง หางบานออกพอประมาณต้องได้ฉาก ลำตัวไม่ว่าจะสั้นหรือยาวต้องได้สัดส่วน ถ้าเป็นปลาลำตัวยาวปลานั้นต้องอ้วนใหญ่ แกนสันหลัง หาง ครีบทวาร ครีบหน้า และบริเวณหัวต้องใหญ่ ได้สัดส่วนด้วย หากเป็นปลาลำตัวสั้นส่วนต่าง ๆไม่ว่าบริเวณสันหลัง ครีบต่าง ๆ และลำตัวต้องสั้นได้สัดส่วน
ปลาทองสิงห์ญี่ปุ่น
สิงห์ญี่ปุ่น (อังกฤษ: Ranchu) เป็นปลาทองสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม
เป็นปลาที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาภายในประเทศไทย มีลำตัวที่อ้วนหนา ดูบึกบึน แข็งแรง ไม่มีครีบหลัง ดูแลคล้ายกับรันชูหรือสิงห์จีนมาก แต่ทว่าสิงห์ญี่ปุ่นจะมีส่วนหัวที่เล็กกว่า ไม่มีวุ้นบนหัวหรือมีแต่ก็น้อยกว่า ลำตัวสั้น หลังโค้งมน หางสั้นและเชิดขึ้น แลดูสง่า ปลาทองสิงห์ญี่ปุ่นที่สวยงามนั้น ต้องมีส่วนหลังที่โค้งมนเป็นรูปครึ่งวงกลม เหมือนไข่ผ่าซีก ดูจากด้านข้างแล้วลำตัวปลาะต้องกว้าง หัวไม่ทิ่มหรือต่ำลงไป การว่ายน้ำต้องทำได้อย่างสมดุล มีสง่างาม
ปลาทองสิงห์ญี่ปุ่นนั้นมีความแตกต่างจากรันชู ตรงที่สิงห์ญี่ปุ่นนั้นมีลำตัวที่สมส่วน ดูกลมกลึงกว่า อีกทั้งมีข้อหางที่เล็กและลึกกว่า ดังนั้นจึงเหมาะแก่การเลี้ยงในตู้กระจก หรือ ไซด์วิว (Side View) ขณะที่รันชูนั้นจะสวยงามกว่าเมื่อได้มองจากด้านบน จึงเหมาะแก่การเลี้ยงในบ่อหรืออ่างมากกว่า จึงเรียกว่า ทอปวิว (Top View)
ปลาทองสิงห์ดำตามิด
สิงห์ดำตามิด หรือ สิงห์สยาม (อังกฤษ: Black pearl, Black siam) เป็นปลาทองสายพันธุ์หนึ่ง ที่ได้รับความนิยมเลี้ยงในปัจจุบัน มีลักษณะเด่นคือ ลำตัวสีดำสนิททั้งตัวไม่เว้นแม้กระทั่งส่วนท้อง ส่วนหัวมีก้อนเนื้อที่เรียกว่า วุ้น ขนาดใหญ่และปิดจนมิดมองไม่เห็นลูกตา ลักษณะส่วนอื่นทั่วไปก็คล้ายกับสายพันธุ์หัวสิงห์ คือ ครีบทุกครีบสั้น ไม่มีครีบหลัง โคนหางใหญ่ แข็งแรง
สิงห์ดำตามิดหรือสิงห์สยามนั้น เป็นปลาทองอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ชาวไทยเป็นผู้คิดค้นสายพันธุ์ขึ้นมา โดยเริ่มขึ้นที่สหกรณ์ปลาสวยงาม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาจากสายพันธุ์หัวสิงห์ จนได้เป็นสายพันธุ์แท้ที่มีความนิ่งในพันธุกรรมและมีเอกลักษณ์เฉพาะสายพันธุ์
ปัจจุบัน สิงห์ดำตามิด เป็นปลาทองอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมเลี้ยงกันมาก โดยในตลาดปลาสวยงาม มักพบปลาทองสายพันธุ์นี้ขายอยู่เสมอ ๆ
ปลาทองสิงห์ลูกผสม
สิงห์ลูกผสม (อังกฤษ: Lionchu หรือ lionhead-ranchu) เป็นปลาทองสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม
เป็นปลาทองที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาภายในประเทศไทย โดยการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างปลาทองสิงห์ญี่ปุ่นและปลาทองสิงห์จีน ทำให้ได้ชื่อว่าสิงห์ลูกผสม มีลักษณะก่ำกึ่งระหว่างสิงห์ญี่ปุ่นและสิงห์จีน ในปัจจุบันเป็นสายพันธุ์ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย ซึ่งในแต่ละปี มีการประกวดสายพันธุ์นี้ในงานประมงน้อมเกล้าฯ และงานอื่นๆ
ปลาทองออรันดา
ปลาทองออรันดาเกิดจากสายพันธุ์ริวกิ้น ผสมกับสายพันธุ์หัวสิงห์ สายพันธุ์นี้เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 18 และแพร่หลายในต้นศตวรรษที่ 19 สำหรับประเทศไทยนั้นเริ่มเพาะพันธุ์และขยายพันธุ์อย่างจริงจังในช่วง พ.ศ. 2500 นี้เอง
สายพันธุ์ปลาทองออรันดาแบ่งได้เป็น 3 แบบใหญ่ ๆ คือ
ออรันดาปักกิ่ง มีลำตัวเล็กที่สุด ขนาดลำตัวเมื่อโตเต็มที่ 8.5-10 เซนติเมตร เป็นสายพันธุ์ที่มีวุ้นขึ้นเร็วและฟูที่สุด เหมาะแก่การเลี้ยงในตู้ปลาขนาดไม่ใหญ่เกินไปนัก เช่น 60-75 เซนติเมตร
ออรันดากลาง เกิดจากการผสมกันระหว่างออรันดาปักกิ่งและออรันดายักษ์ ทำให้ได้ปลาที่มีขนาดพอเหมาะลำตัวโตเต็มที่ประมาณ 12.5-15 เซนติเมตร 5วุ้นจะขึ้นเร็วกว่าออรันดายักษ์ แต่ช้ากว่าออรันดาปักกิ่ง
ออรันดายักษ์ ขนาดโตเต็มที่ประมาณ 20 เซนติเมตร เป็นปลาทองที่โตช้า วุ้นขึ้นช้า ซึ่งจะพัฒนาตามขนาดลำตัวและวัยของปลา เป็นปลาที่กินเก่ง ต้องการพื้นที่กว้าง ๆ เพื่อช่วยในการเจริญเติบโต มักเลี้ยงไว้ในตู้ปลาขนาดใหญ่ หรือในบ่อ
สายพันธุ์ปลาทองออรันดาแบ่งได้เป็น 3 แบบใหญ่ ๆ คือ
ออรันดาปักกิ่ง มีลำตัวเล็กที่สุด ขนาดลำตัวเมื่อโตเต็มที่ 8.5-10 เซนติเมตร เป็นสายพันธุ์ที่มีวุ้นขึ้นเร็วและฟูที่สุด เหมาะแก่การเลี้ยงในตู้ปลาขนาดไม่ใหญ่เกินไปนัก เช่น 60-75 เซนติเมตร
ออรันดากลาง เกิดจากการผสมกันระหว่างออรันดาปักกิ่งและออรันดายักษ์ ทำให้ได้ปลาที่มีขนาดพอเหมาะลำตัวโตเต็มที่ประมาณ 12.5-15 เซนติเมตร 5วุ้นจะขึ้นเร็วกว่าออรันดายักษ์ แต่ช้ากว่าออรันดาปักกิ่ง
ออรันดายักษ์ ขนาดโตเต็มที่ประมาณ 20 เซนติเมตร เป็นปลาทองที่โตช้า วุ้นขึ้นช้า ซึ่งจะพัฒนาตามขนาดลำตัวและวัยของปลา เป็นปลาที่กินเก่ง ต้องการพื้นที่กว้าง ๆ เพื่อช่วยในการเจริญเติบโต มักเลี้ยงไว้ในตู้ปลาขนาดใหญ่ หรือในบ่อ
บรรณานุกรม
1. Wikipedia. (2557). Flemish Giant rabbit. ค้นข้อมูล วันที่ 19 ธันวาคม 2557. จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Flemish_Giant_rabbit